40 กว่าๆ ยังแอ๊บ + ยังเวอร์…จิ้น!

เลิกแอบเสียที วิทยา แสงอรุณ 11-12 ส.ค. 2007 เซคชั่น MetroLife จากนสพ. ผู้จัดการรายวัน ฉบับวันเสาร์

male 40

ข้อมูลล่าสุดจากเมืองลุงแซมบอกว่า ยุคสมัยนี้ อายุเฉลี่ยของเกย์ที่ตัดสินใจเลิกแอบอยู่ที่ 13 ปี รายงานดังกล่าวมาจากมหาวิทยาลัย San Francisco State University และได้รับการตีพิมพ์อย่างครึกโครมในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นหลายฉบับ

ไม่มีใครรู้ว่า อายุเฉลี่ยของเกย์-เลสเบี้ยนไทยที่เลิกแอบอยู่ที่เท่าไหร่ เดาคร่าวๆ ก็ไม่น่าจะเป็น 13 หรอกน่ะครับ เพราะเด็กไทยไม่ได้โตเร็ว และไม่ได้เผชิญโลกเร็วเหมือนเด็กอเมริกัน เราอยู่ในระบบครอบครัวอุปถัมภ์

แต่เท่าที่ผมสังเกตดู ในสมัยนี้ วัยรุ่นไทยในระดับมหาวิทยาลัยนี่แหละเปิดเผยกันให้พรึ่บ คำว่า เปิดเผยในที่นี้ไม่ได้หมายถึง เที่ยวป่าวประกาศนะครับ แต่หมายถึง ไม่ได้ปิดบังอำพราง หรือสร้างภาพลวงตา และที่บอกว่า “เปิดกันให้พรึ่บ” ผมก็ไม่ได้หมายถึงกลุ่มที่นิยมแต่งหญิงนุ่งกระโปรงนะครับ เพราะเด็กที่เป็นกะเทย ส่วนใหญ่แล้วจะส่งสัญญาณ “ฉันเป็นฉัน” ตั้งแต่วัยเยาว์ พวกเขาเป็นที่รับรู้ว่ามีตัวตน ส่วนเด็กชายเกย์และเด็กหญิงเลสเบี้ยนนี่สิ ดูยาก เหมือนมนุษย์ล่องหน

ยิ่งคนเรามองไม่เห็นอะไรที่จับต้องได้ ก็มักจะฟันธงไปว่า คงไม่มีหรอกคนพวกนี้ ลองสังเกตสมาชิกในบ้าน ญาติ หรือเพื่อนข้างบ้านคุณหน่อยสิ ต้องมีอย่างน้อยคนหรือสองคนแน่ๆ
ผมเพิ่งได้คุยโทรศัพท์กับคนๆ หนึ่ง เลยคิดไปถึงรายงานข่าวข้างบนนี้ ถ้า “รักษ์” เกิดที่อเมริกา หรือเพิ่งจะเข้ามหาวิทยาลัย เขาก็คงไม่ทุกข์ใจแบบนี้ อย่างน้อยเขาก็น่าจะสบายใจกว่าที่เป็นอยู่ เขาเป็นอีกคนหนึ่งที่เติบโตมาในยุคข่าวสารโบราณคร่ำครึที่ว่า เกย์เป็นตัวเชื้อโรค เกย์เป็นพวกวิปริต มันได้หล่อหลอมความคิดของเขาเหมือนใครๆ อีกหลายคนที่บอกว่า ยังเลิกแอบไม่ได้ นั่นแหละ

“ขอโทษครับ คุณวิทยา อายุเท่าไหร่ (ผมบอกไปคร่าวๆ) อ๋อ…อ่อนกว่าผม ตอนนี้ผมสี่สิบ… แล้วล่ะครับ (ผมขอบอกท่านผู้อ่านคร่าวๆ เหมือนกัน) ผมอยากจะปรึกษาเรื่องชีวิตผมน่ะครับ”
รักษ์เล่าว่า ถึงตอนนี้เขาจะอายุสี่สิบกว่าแล้ว เขาก็ไม่มีเพื่อนเป็นเกย์ ไม่มีใครเลยที่เขาจะไว้ใจได้เต็มๆ และบอกเล่าความรู้สึกลึกๆ ที่ฝังอยู่ในใจมานาน เขายังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกัน ไม่เคยไปอาบอบนวด ไม่เคยเที่ยวผู้หญิง ไม่เคย…ไม่เคย…ไม่เคย…
ผมเกือบจะถามเขาไปแล้วล่ะครับว่า “แล้วไม่เบื่อเหรอที่ต้องทำกิจกรรม ‘โลกสวยด้วยมือเรา’ ให้จบๆ ไป” เวลาต้องการ

เขาคงหัวเราะถ้าผมถามอย่างนั้นจริงๆ เพราะฟังจากเสียงแล้ว ดูเขาเป็นคนอารมณ์ดี สิ่งนี้กระมังทีทำให้เขาอยู่มาได้ โดยไม่อัดใจตายไปซะก่อน

“เพื่อนๆ รุ่นราวคราวเดียวกับผมก็แต่งกันไปหมดแล้ว เพื่อนบางคน ผมสงสัยว่าต้องเป็นเกย์เหมือนผม ก็ยังแต่งงาน ทำไมผมรู้น่ะเหรอ ก็ผมเคยได้ยินเค้ามีอะไรกันกับเพื่อนอีกคน (แน่ะ เป็นนักฟังที่ดี) ที่บ้านผมก็แต่งกันเกือบหมดแล้ว ผมก็เกือบจะแต่งงานแล้วนะครับ กับเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง แต่คิดไปคิดมา ไม่ดีกว่า เหมือนโกหกกัน”

ผมนึกถึงคนอื่นๆ อีกหลายๆ คนที่มักจะบอกว่า ไม่กล้าพูดความจริงของตัวเองออกไป เพราะกลัวถูกปฏิเสธ กลัวถูกดูหมิ่น กลัวเพื่อนรับไม่ได้ กลัวทำให้คนข้างเคียงเสียใจ พวกเขาบางคนกลับมองว่า การที่อดทนเก็บความลับไว้กับตัวเองนั้น เป็นสิ่งที่แสดงความกล้าหาญ อดทน และเสียสละอย่างหนึ่ง

แต่ผมว่า มันคนเรื่องกันเลย

กรณีของรักษ์ คงไม่ได้แปลกพิสดาร แต่ผมก็อดเอากลับมาคิดไม่ได้ ก่อนหน้านี้ เวลามีคนมาถามว่า อยากจะเลิกแอบ แต่ไม่กล้าบอกพ่อแม่ และคิดว่าอยากจะรอให้พ่อแม่ลาจากโลกนี้ไปก่อน ถึงจะบอกใครๆ ได้

ผมฟังแล้วก็รู้สึกเข้าใจและเห็นใจนะครับ ผมก็เคยคิดอย่างนั้น แต่ก็อดอยากจะรู้ต่อไปไม่ได้ว่า หากถึงเวลานั้นจริงๆ เวลาที่บุพการีบ๊ายบายลาจากโลกนี้ไปแล้ว พวกเขาจะยังมี “พลังงาน” อะไรเหลืออยู่อีกที่จะ “เลิกแอบ” ผมไม่กล้าจะนึกเลยต่อไปว่า หากคุณพ่อคุณแม่อายุยืนสักร้อยปีล่ะ?

ผมคิดในอีกมุมหนึ่ง คงมีบุพการีอีกหลายๆ คนที่ไม่รู้ความจริงเลยว่า ลูกชายตัวเองเป็นเกย์ จนกระทั่งจากกันไป มันน่าเศร้ามากกว่า เพราะอะไร? ผมคิดว่า เรื่องนี้ต้องพูดกันบ่อยๆ ครับว่า การพูดความจริงกับคนที่เรารักสุดหัวใจน่ะ คือการมอบความไว้วางใจและบอกเขาว่า เรารักเขาแค่ไหน เราถึงไม่มี “อะไร” ในโลกต้องปิดบังเขาอีกแล้ว

“ไม่ใช่เป็นการโยนภาระ หรือทำให้เขาไม่สบายใจ” ลองมองอะไรใหม่ๆ นะครับ
สำหรับรักษ์ พ่อแม่ของเขาจากไปนานแล้ว แต่เขาก็ยังไม่กล้าจะบอกใครๆ ในครอบครัวซักทีว่า เขาเป็นใคร เขายังคงปล่อยให้มันเป็นคำถามคาใจพี่ชาย พี่สาว น้องสาว น้องชายของเขาอยู่ ไม่มีใครรู้หรอกว่า ภายใจในของหนุ่มโสดคนนี้ มันร้อนรุ่มแค่ไหน เพียงแค่อยากจะบอกใครสักคน อยากมีเพื่อนสักคน

ผมดีใจนะครับ ที่รักษ์เลือกผมเพื่อระบายความจริงเกี่ยวกับชีวิตเขา แม้กระทั่งยอมรับกับผมว่า เขายังเวอร์จิ้นอยู่แม้จะสี่สิบกว่าแล้ว เขาไม่รู้สึกอายที่บอกผมอย่างนั้น เขาไม่รู้สึกอายที่บอกผมว่า อยากจะกอดใครซักคนในชีวิต

ผมกลายเป็นคนที่ล่วงรู้ความลับของใครๆ หลายๆ คน แต่ผมเป็นแค่เพื่อน เป็นแค่คนรู้จักทางหน้ากระดาษ บนเว็บ ฯลฯ ส่วนใหญ่ ผมก็ไม่เคยเห็นหน้าผู้อ่าน ผมรู้สึกดีใจนะครับที่ทำงานตรงนี้ แต่ผมคิดว่า คนที่จะดีใจมากกว่าหลายร้อยเท่า น่าจะเป็นคนในครอบครัวของเขามากกว่า

ปีนี้คุณอายุเท่าไหร่แล้วครับ (ผมไม่กล้าถามหรอกว่า คุณยังเวอร์จิ้นอยู่หรือเปล่า เว้นแต่คุณอยากจะบอกเอง) เอาเป็นว่า วันแม่เวียนมาอีกแล้ว ปีนี้ จะมีใครบอกแม่บ้างมั๊ย แล้วมาเล่าให้ผมฟังน่ะ?

-end-

3 thoughts on “40 กว่าๆ ยังแอ๊บ + ยังเวอร์…จิ้น!

  1. ผมคงไม่ต่างจากคุณรักษ์เท่าไหร่ ทุกวันนี้ก็ยังแอบอยู่ ส่วนเรื่องแม่ผมนั้น ผมว่าท่านอาจจะรู้อยู่กลาย ๆ มั๊ง ผมเองก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ อาจจะปิดมากไป ปิดจนกระทั่งมองไม่เห็นว่าคนรอบตัวเรารู้ถึงความเป็นไปของตัวเราเองมากแค่ไหน แต่ถ้าจะถามว่าจะปิดไปถึงเมื่อไหร่ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เอาเป็นว่าตอนนี้ผมมีโลกสองใบ ใบหนึ่งเป็นโลกที่ผมสวมบทบาทชายโสด ในสังคมชายหญิงทั่วไป กับโลกอีกใบที่ผมสวมบทบาทเป็นชายหนุ่มที่มีแฟนเป็นชาย เป็นโลกที่เราสามารถแสดงออกถึงความห่วงใยกันได้ในเวลาที่อยู่กันสองต่อสอง (ฟังดูแล้วน่าสงสาร มากกว่าน่าอิจฉานะผมว่า)
    แต่อย่างไรก็ดี ทั้งผมและแฟนก็มีความสุขดีในโลกแบบนี้ของเรา ถึงจะตอบไม่ได้ก็เถอะครับว่าเรากำลังหลอกตัวเองกันอยู่หรือเปล่า

  2. เอาใจช่วยนะครับคุณรักษ์ บางครั้ง ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน ถ้าทำให้เรารู้สึกสุขใจได้ทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าในสถานการณ์ใด จะทำให้ความรักมีความหมายมากยิ่งขึ้น

  3. เมฆหมอกมันไม่ให้ความรู้สึกสดใสกระจ่างชัด แต่ก็เป็นเสน่ห์
    เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่มันเป็นนะครับ
    ผมคิดว่าการที่เราเลือกที่จะไม่บอกกับใครหรือพูดไปไม่ได้เป็นการปกปิดหรือแสแสร้งอะไร เพราะเราคือตัวเราคือสิ่งที่เราเป็น
    เพียงแต่สิ่งที่เราค้นหาคือคนที่เป็นเพศเดียวเราต่างหากที่ทำให้เรารู้สึกแตกต่างจากผู้ชายคนอื่น ทั้งที่ความคิดต่างๆเราก็เหมือนคนอื่น
    แสงแดดไม่สามารถส่องผ่านเมฆหมอกได้ มันก็เหมือนกับคุณก็ไม่สามารถเปลี่ยนความรู้สึกของบุคคลรอบข้างได้ อยู่ที่คุณเลือกที่จะปล่อยวางมันหรือไม่ มันขึ้นอยูกับความรู้สึกและการตัดสินใจของคุณ
    แต่สำหรับผมผมชอบสิ่งรอบข้างที่มันเป็นอยู่โดยที่ไม่แสแสร้งอะไร ถ้าการที่คุณมองเห็นผู้ชายบางคนแล้วรูสึกชอบแต่ไม่แสดงออกมันก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องอยู่แล้ว
    นำทะเลจะสวยงานยามที่มีเมฆหมอก
    ขอให้คุณรักษ์พานพบกับสิ่งนั้นนะครับ

ใส่ความเห็น