“พี-ก้อง” พรุ่งนี้ก็รักเธอ

หน้าม่านมายา 8 ธ.ค. 2009 วิทยา แสงอรุณ

ท่านผู้หลักผู้ใหญ่ที่ดูละคร “พรุ่งนี้ก็รักเธอ” เห็น “นายพีกับนายก้อง” รักกัน แล้วรับไม่ได้ ไม่ใช่เพราะท่านเป็นคน “หัวโบราณ” แต่เพราะท่านเป็นคนมีอาการ “โฮโมโฟเบีย”

“โฮโมโฟเบีย” ไม่ใช่อาการใหม่ของสังคม แต่เป็นอาการที่เป็นมาแต่โบราณ มีมานานแล้ว คนส่วนใหญ่เลยสับสนคิดว่า เพราะตัวเองเป็นคนหัวโบราณ จึงรับภาพผู้ชายสองคนเป็นแฟนกันในจอทีวีไม่ได้

คนที่มีอาการโฮโมโฟเบีย จะแสดงออกดังนี้

รู้สึกเป็นห่วงเป็นใยแทนเยาวชน: กลัวไปว่า เด็กๆ ที่ได้รับชมภาพเกย์ กะเทย ทอม ดี้ผ่านสื่อ แล้วจะติดใจ อยากเลียนแบบ “เราต้องปกป้องเยาวชนของเรา” คือหลักการเหนียวแน่นของท่าน

หรืออีกนัยหนึ่ง ท่านเป็นผู้ที่เชื่อว่า เยาวชนไทยไม่ค่อยมีความคิด ไม่ค่อยมีวิจารณญาน ต้องคอยปกป้องและชี้นำว่า อะไรควร อะไรไม่ควร เดี๋ยวเห็นอะไรโผล่มาทางจอทีวีก็อยากเลียนแบบไปหมด หรืออีกนัยหนึ่ง เยาวชนไทย “ไม่ค่อยมีสมอง”?

รู้สึกเป็นห่วงวัฒนธรรม ประเพณี และความเป็นไทย: ภาพความรักของผู้ชายสองคนจะทำให้วัฒนธรรม ประเพณี และคุณค่าความเป็นไทยที่ดีงามเสื่อมทรามลงไป ด้วยสิ่งเหล่านี้เป็นอิทธิพลจากตะวันตก

เป็นเรื่องน่าสนใจที่ว่า ท่านที่พูดแบบนี้มักไม่สามารถอธิบายได้ว่า อะไรคือคุณค่าความเป็นไทยที่ดี หรืออะไรคือ วัฒนธรรมประเพณีที่งดงาม ความดีความงามวัดกันตรงไหน?

และเหนือสิ่งอื่นใดที่คนเป็นเกย์ (อย่างผม) ต้องเกาศีรษะสามทีเสมอๆ ก็คือ เป็นเกย์ แล้วไปเดือดร้อนวัฒนธรรมประเพณียังไง?

รู้สึกเป็นห่วงเรื่องการสืบพันธุ์: ถ้ามีคนเพศเดียวกันรักกันมากๆ โลกทั้งโลกจะล่มสลาย เพราะรักเพศเดียวกันไม่มีการสืบเผ่าพันธุ์ ไม่มีลูกมีหลาน

ท่านผู้ใหญ่ที่มีแนวคิดแบบนี้แล้วรู้สึกเดือดร้อน เป็นห่วงโลก คงเข้าใจผิดมาตลอดเกี่ยวกับเรื่องเพศสัมพันธ์ การมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้หมายถึง การสืบเผ่าพันธุ์แต่อย่างเดียว ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว มนุษย์ไม่ได้ “เอากัน” เพราะจะผลิตลูก มนุษย์ไม่ได้มีฤดู “ติดสัด” เพราะฉะนั้น การที่คนเพศเดียวกันมีอะไรกัน ก็ไม่จำเป็นต้องผลิตอะไรออกมา หรือกระทั่งคนรักต่างเพศ มีอะไรกัน ก็ไม่เห็นต้องตั้งหน้าตั้งตาผลิตลูก หรืออยากสืบสกุลลูกเดียว

แต่ที่น่าสนใจก็คือ คู่รักเพศเดียวกันที่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ก็อยากมีลูกด้วยกันทั้งนั้น พวกเขาเลยใช้การผสมเทียม หรือฝากให้ชาวบ้านท้องแทนเพื่อมีลูก แล้วอย่างนี้ โลกจะล่ม
สลายมั๊ย? อีกอย่างแล้วคนโสด หรือคนที่เป็นหมัน คนที่นกเขาไม่ขัน หรือคุณผู้หญิงที่เกลียดการมีเพศสัมพันธ์ คนเหล่านี้มีส่วนทำให้โลกล่มสลายด้วยหรือเปล่า?

อาการโฮโมโฟเบีย เกิดขึ้นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เรียกได้ว่าไม่จำกัดอายุ เพศ เชื้อชาติ และศาสนา แม้บางศาสนา เช่น ศาสนาพุทธไม่ได้แอนตี้คนเป็นเกย์ และความรักชอบเพศเดียวกัน แต่เราจะพบเห็นคนพุทธที่ชอบอ้างความเป็นพุทธและอ้าง “ความเป็นไทย” จับมาผสมกันจนแยกแยะไม่ออกว่า สิ่งที่ตัวเองรู้สึกไม่พอใจ จริงๆ แล้ว มันเกิดมาจากอะไรกันแน่?

ความรู้สึกต่อต้านเหล่านี้ ลึกๆ แล้ว เป็นความรู้สึกที่เราจะพบเห็นได้ในหมู่คนใกล้ชิด คุณผู้อ่านเคยเจอหรือเคยคบเพื่อนที่ไม่อยากให้คนอื่นได้ดี จนเกินหน้าหรือเปล่า?

คนที่มีอาการโฮโมโฟเบียก็เช่นกัน คนเหล่านี้มีความรู้สึกว่า เกย์ เลสเบี้่ยน กะเทย สาวประเททสอง ทอม ดี้ อีทีซี (etc.) เป็นประชากร “ชั้นสอง” หรือเป็น “ความบกพร่อง” ที่ควรถูกกำจัด เพราะโลกนี้ นอกจากจะเจอปัญหาโลกร้อนแล้ว ไม่น่าจะมีคนประเภทนี้อยู่บนโลกให้รู้สึกเดือดร้อนอีก ทั้งๆ ที่มีแต่ท่านเท่านั้นแหละที่มักเดือดร้อนไปเอง ขออภัยถ้าพูดตรงเกินไป

แต่ผมยังรู้สึกชื่นชมนะครับ ที่ท่านที่เป็นโฮโมโฟเบีย กล้าแสดงความคิดเห็นออกมา นั่นแสดงว่า ท่านมีโอกาสที่จะเปิดรับฟังความคิด เปิดทัศนะ และมุมมองใหม่ๆ ของท่าน ท่านไม่ใช่คนย่ำอยู่กับที่ ซึ่งต่างจากคนที่มักจะพูดให้คนอื่นฟังว่า “ผม/ฉัน มีเพื่อนเป็นเกย์ กะเทย ทอม ดี้ เยอะแยะ” ผม/ฉัน ไม่ได้แอนตี้พวกคุณ” แต่ท้ายที่สุด ก็ปฏิเสธตัวตนและไม่สนับสนุนให้คนกลุ่มนี้ให้ได้รับความเป็นธรรม

คนกลุ่มหลังนี้ ผมว่า น่ากลัวที่สุด เพราะเขาพูดอย่างนั้น เพื่อให้คนอื่นคิดว่า ตนเป็นคนใจกว้าง แต่จริงๆ แล้วตรงกัันข้ามอย่างสิ้นเชิง คนเหล่านี้ เป็น “อีแอบ” ตัวจริง

ตัวละคร “ก้องและพี” ไม่ใช่ตัวละครเกย์คู่แรกในจอทีวี แต่เป็นตัวละครเกย์ไม่กี่คู่ในละครตู้ที่แสดงความรักได้อย่างน่าติดตามและทำให้คนดู (ที่ไม่ได้เป็นโฮโมโฟเบียขึ้นสมอง) รู้สึกอยากติดตามละครเรื่องนี้ คนที่ไม่ได้ดูเรื่องนี้ อาจเข้่าใจว่า ตัวละครสองตัวนี้เป็นตัวเอก เปล่าเลย เป็นตัวละครประกอบที่ดัน “ดัง” กว่าพระนางในเรื่อง และบทที่ทั้งสองแสดง “กลมกล่อม ลงตัว​”

คู่รักตัวอย่างที่ดีอย่าง “ทีและจอน” ใน “รักแปดพันเก้า” (ช่อง 9) ก็ห่างหายจากจอตู้ไปนานแล้ว จึงไม่แปลกอะไรที่คอละครที่ใจกว้างเลยรู้สึกต้อนรับ “ก้องและพี” อย่างรอคอย

จริงๆ แล้ว ก่อนหน้านี้มีตัวละครคู่เกย์ที่เพิ่งจบไป แต่ “ตาวและแอ” ในน้ำตาลไหม้ เป็นภาพสะท้อนที่ต่างจาก “ก้องและพี” เพราะคู่เกย์ในละครช่อง 3 เรื่องนี้ ไม่ได้มีความรู้สึกต่อกันอย่างจริงใจ แต่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเอารัดเอาเปรียบ เป็นภาพลบของความสัมพันธ์ที่ผ่านตัวละครเพศเดียวกัน ที่ท่านผู้ใหญ่โฮโมโฟเบียดูแล้วสบายใจ รับได้ “เพราะเยาวชนไทยคงไม่เอาอย่าง หรือเลียนแบบ”

ในประเทศสิงคโปร์ ผู้มีอำนาจที่นั่นใช้หลักคิดเดียวกัน “พรุ่งนี้ก็รักเธอ” คงไม่มีทางไปฉายที่เกาะนั่นได้ ไม่ใช่เพราะมีตัวละครเป็นเกย์ แต่เพราะมีตัวละครเป็นเกย์ที่มีความรู้สึกเหมือนมนุษย์ทั่วไป และมีความรักที่สวยงามให้กัน

___________________________
วิทยา แสงอรุณ เป็นคอลัมนิสต์อิสระ กับเพื่อนจัดรายการอยู่คลื่น FM102 ทุกวันอาทิตย์ สี่ทุ่มถึงเที่ยงคืน ฟังรายการย้อนหลัง http://www.nationradio.co.th อีเมล์ vitayamail@gmail.com

22 thoughts on ““พี-ก้อง” พรุ่งนี้ก็รักเธอ

  1. เห็นด้วยครับ

    ได้อ่านสัมภาษณ์คุณบอย ถกลเกียรติว่าก่อนละครเรื่องนี้จะออกฉาย
    ก็มีหนังสือเตือนมาจากช่อง 5 ถึงตัวละครเกย์
    แต่คุณบอยก็ได้ชี้แจงไปอย่างชัดเจน แล้วก็ฉายไปตามปกติ
    แถมยังโปรโมทอีกด้วยว่าถ้าสังเกตดีๆ ตัวละครคู่อื่นๆ จะมีตบตีด่าทอ
    แต่ก้อง-พีนั้นเป็นคู่ที่คลีนที่สุด
    พออ่านสัมภาษณ์จบก็เลยคิดขึ้นมาได้ว่า
    1. สุดท้ายแล้วสื่อก็ยังหวาดกลัวคนรักเพศเดียวกันทั้งๆที่คนทำงานสื่อก็เป็นคนรักเพศเดียวกันแบบเปิดเผยเยอะแยะ ดู ironic มากๆ
    2. ทหารเองก็นะ… ironic อีกเช่นกัน อย่าปฏิเสธว่าในกองทัพไม่มี
    3. คุณหนูบอยเองก็ยอมรับว่าสังคมก็ยังมองคนรักเพศเดียวกันด้วยสายตาที่ไม่ดี ก็เลยต้องทำให้คู่คนรักเพศเดียวกันดูคลีนที่สุด เพื่อปฏิเสธภาพที่สังคมมองเห็น

    ในที่สุดแล้ว รักของเกย์จริงๆ คืออะไร คือภาพที่ดู “คลีน” อย่างก้อง-พี ซึ่งเป็นอุดมคติที่สร้างขึ้นจากการปฏิเสธ stereotype ของภาพคู่เกย์รุ่นก่อนๆ อย่างที่ถูกนำเสนอผ่านตาว-แอ ในน้ำตาลไหม้ หรือว่ามันเป็นรักจริงๆ ที่กำลังเกิดขึ้น

    ก็เลยแอบสงสัยว่าละครทำให้รักของเกย์ดูดีเกินไปรึป่าว? แล้วพวกเราที่ดูละครแล้ว มองกลับมาดูชีวิตจริงของเรากันหน่อยดีกว่าว่าเรารักกัน “ดี” อย่างนั้นจริงไหม หรือว่า “อยาก” จะมีรักแบบนั้นไหม เผื่อว่าบางที การมีรัก “ดีๆ” จะช่วยลดทอนอาการโฟเบียเหล่านี้ไปบ้าง (จริงป่ะเนี่ยยยย :)

    ปล. เคยได้ยินศัพท์อีกคำนึงอ่ะครับคำว่า “heterosexism” หมายถึงการคิดว่าทุกคนต้องเป็นคนรักต่างเพศ แล้วก็เขี่ยคนที่ไม่ใช่รักต่างเพศออกไปอยู่ที่ชายขอบน่ะครับเพราะคิดว่ารักต่างเพศนั้นอยู่เหนือเพศอื่นๆ ซึ่งเพศอื่นๆ เหล่านี้ไม่ใช่เฉพาะรักเพศเดียวกันนะครับ แต่รวมไปถึงคนรักสองเพศ คนข้ามเพศ บลาๆๆ อีกด้วยครับ

  2. กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ไม่คิดว่าพี่วิทย์จะเขียนถึงคู่นี้ค่ะ อึ้งอ่า

    ขออนุญาตก็อปไปแปะในพันทิปกะเล้าเป็ดนะน้า วันนี้ที่นู่นสาวกก้องพีเงียบเหงา เพราะวันนี้เศร้าจิตเกิน

    ขอบอกว่า ดูเรื่องนี้เพราะคู่นี้เลย ส่วนคู่อื่น ไม่สน exact ทำละครเรื่องนี้ดีมากค่ะ ไม่ค่อยเจอกระทู้หลังละครจบได้เยอะขนาดนี้มาก่อน มีกระทู้เกียวกับละครเรื่องนี้กลายเป็นกระทู้แนะนำหลายกระทู้เลยทีเดียว

    ตั้งแต่ผู้ใหญ่ลีกับนางมาจบไป ก็พึ่งจะมีสูตรเสน่หากับพรุ่งนี้ก็รักเธอที่ทำค่ะ

    แปลกนะคะ เราดูคู่นี้ เรามองข้ามผ่านเรื่องเพศไปเลย มันเป็นเรื่องคนสองคน ที่รักกันมาก ไม่ได้มองว่าเป็นคู่เกย์ในละครซักกะนิด แปลกดีเหมือนกันค่ะ

  3. ตรง และ ถูกต้อง เห็นด้วยตามนั้นทุกประุการครับ

    เวลาใครออกตัวก่อนว่า “ผมไม่ได้รังเกียจเกย์นะ แต่…”
    มันน่าเบื่อมากเลยอ่ะ
    พวก homophobe ที่ไม่รู้ตัวเองเนี่ย

  4. วันนี้ไปเจอกระทู้นี้ในพันทิปมาอ่ะครับ
    http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8649859/A8649859.html
    อ่านคห.แรก แล้วรู้สึกว่าเจอคนประเภทนี้บ่อยมาก
    ประเภทที่ว่านั่ง ๆ ดูอยู่กับเด็กแล้วมันมีฉากเกย์โผล่มา แล้วโดนเด็กถาม ตัวเองตอบไม่ได้แล้วก็มาโทษว่าเป็นความผิดของหนัง

    พี่ช่วยคิดคำอธิบายให้คนพวกนี้หน่อยสิครับ ว่าเวลาโดนเด็กถามควรจะตอบว่ายังไง

    ผมเรียบเรียงคำพูดได้ไม่ดีอ่ะ เดี๋ยวถ้าได้แล้วจะเอาไปโพสท์ในพันทิปห้องเฉลิมไทยบอกว่าต่อไปนี้ถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้ให้อธิบายกับเด็กว่าอย่างงี้ ๆ

  5. ไม่ค่อยได้ติดตามแต่ชอบ โอ-อนุชิต เขาคงอยากเล่นบทแบบนี้มานานแล้ว… ถ้าเป็นจริงอย่างในข่าว (เก่าๆ) ก็อยากให้เขาเปิดเผยตัวเองอย่างเต็มใจ อย่ายอมเป็นเหยื่อของสื่อที่ยัดเยียดข้อกล่าวหาให้เลย ส่วนน้องฟลุคเธอเล่นเรื่องนี้แล้วก็ เกิดดดดด ไปเรียบร้อย อิอิ ว่าแล้วคืนนี้(ก็)ต้องดู

  6. วันก่อนฟังเพลง ชีวิตลิขิตเอง แล้วก็ไปดู เมืองมายาใน youtube ทำให้เห็นภาพแรกๆ ของ EXACT ที่มีตัวละครที่มีความหลากหลายทางเพศ อย่าง ปู อนุวัฒน์, ม้า อรนภา ส่วนพรุ่งนี้ก็รัก เธอ ตอนแถลงข่าวก็เฉยๆ ไม่ได้คิดจะดูเพราะไม่ติด TV (จาเรียกว่าไม่มีก็ได้ เพราะเครื่องเก่ากว่าสิบปี) จาก Hi5 ของ BangkokRadioForMen แล้วมิดูไม่ได้แล้ว อย่างที่เคยบอก โหลดมาดูช่วง สุดสัปดาห์ 20 ตอน 18 ชั่วโมง รวด ส่วนสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ปัดฝุ่นเจ้าเครื่องรับภาพโบราณนั้น บางวันถึงกับหงุดหงิดที่มี ก้อง กับ พี ไม่ถึง 5 นาที อย่างหนึ่งที่ชอบตัวละครทั้งสอง คือ ไม่ได้ออกมาในลักษณะสว่างจิตเกินเหตุ และ ไม่ได้เป็นตัวละครที่ปกปิด ปิดบังเกิน ทำให้เกิดการเข้าถึงและยอมรับ ในวงกว้างมากขึ้น อันนี้ต้อง thanks ทาง Exact ล่ะ

ส่งความเห็นที่ 12 ยกเลิกการตอบ